ทำไมธุรกิจจึงควรทำ SEO และอะไรคือ SEO อธิบายแบบเข้าใจง่าย
อยากทำเว็บไซต์ จะมีคนเข้ามาดูไหม ?
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ทำเว็บไซต์กัน แต่เมื่อลงทุนพัฒนาไปเรียบร้อยแล้วแต่ดันไม่มีใครเข้าเว็บไซต์เราเลย เพราะอะไร และจะทำไปทำไมในเมื่อเป็นอย่างนั้น เว็บไซต์ก็ไม่ได้ถูกใช้เต็มประสิทธิภาพเราจะมาหาคำตอบกันครับ
คำถามแรกที่ลูกค้าแทบจะทุกรายถามกันมา คือ โปรโมทเว็บไซต์ยังไง ? ทำยังไงถึงจะมีคนเข้าเว็บเพิ่มขึ้น ? เพราะผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ หลายคนเลือกที่จะซื้อโฆษณาบน Facebook Ads หรือ Google Ads ซึ่งบางรายอาจจะมีกำลังจ่าย บางรายอาจจะงบน้อย เมื่อหยุดซื้อโฆษณายอดผู้เข้าชมสินค้าและแฟนเพจ ก็หายไปในทันที ยอดการเข้าถึงลดผู้คนเข้าเพจลด โพสที่ทำไปก็เปล่าประโยชน์เพราะคนไม่เห็น
บทความนี้จึงทำขึ้นมาเพื่อให้รู้จักวิธีโปรโมทเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพคือ การทำ SEO (Search Engine Optimozation) ที่ช่วยให้เว็บไซต์ที่คุณทำขึ้นไปติดอันดับต้น ๆ จนถึงหน้าแรกได้บน Search Enginge อย่าง Google หรือ Bing เพราะมันช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว (แต่ต้องบอกว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะการแข่งขันสูง)
ทำไมเราจึงควรทำ seo ?
เนื่องจากคนส่วนใหญ่บนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตใช้ Google เป็นหลักอยู่ทุกวัน และเป็นสิ่งที่คนใช้ทุกวันจำนวนวันละหลายชั่วโมงไม่แพ้ Facebook / Instagram / Line เลยครับ หลายคนแทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่ากำลังใช้งาน Search Engine อยู่ เพราะแค่เปิดหน้าเว็บแล้วพิมพ์ไปบน Browser ก็นับเป็นการใช้ Search Engine แล้วนะ!
ทุกวันนี้คนจะใช้ข้อมูลที่ค้นหาจาก Google ไม่ต่ำกว่า 3,500,000,000 ครั้ง อ่านดีๆ นะ สามพันห้าร้อยล้านครั้งต่อวัน หรือประมาณ 40,000 กว่าครั้งต่อวินาที ทั้งหาข้อมูลสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจ รีวิว ร้านอาหาร ท่องเที่ยว อ่านข่าว หาคนทำงานจ้างงานต่าง ๆ ฯลฯ เว็บไซต์ที่แสดงอยู่หน้าแรกของ Google จึงได้ประโยชน์มากที่สุด “แล้วเว็บไซต์คุณละได้ประโยชน์จากตรงนี้บ้างหรือยังครับ”
เปรียบเทียบอันดับ Google กับหน้าร้านทั่วไปยังไง ?
ถ้าให้เปรียบง่ายๆ หน้าเว็บไซต์กับหน้าร้านค้าของคุณ เปรียบเหมือนร้านค้าในซอยลึกๆ ที่มีคนเดินผ่านไปมาปกติแหละครับ แต่อาจจะมีคนเดินไปถึงน้อยมาก โอกาสที่คนจะเจอหน้าร้านคุณก็อาจจะน้อย หรือแทบไม่มีเลย คุณก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซื้อโฆษณาเพื่อให้ป้ายร้านค้าไปอยู่ต้นซอย เพื่อให้คนรู้จักร้าน
เพราะฉะนั้นการได้อยู่อันดับแรกๆ ของ Google ก็เหมือนร้านคุณอยู่ในที่ ๆ มีคนเดินผ่านเยอะ อยู่ในย่านน่าสนใจ ( แบบชิบูย่า อะไรประมาณนั้น คนเพียบเลย! ) ทุกวันก็จะมีคนเห็นเป็นแสนๆ คน แบรนด์และสินค้าคุณจึงแทบไม่ต้องเสียค่าโฆษณาหรือโปรโมทอะไรเลย เพราะทำเลดีขนาดนั้น แต่ประเด็นต่อมา คือ สินค้าคุณก็ต้องน่าสนใจ ป้ายก็ต้องน่าสนใจด้วยนะ ปัจจัยตรงนี้เราจะมาเล่าทีหลังนะครับ
จากการสำรวจผู้ใช้งาน Search Engine ในประเทศไทย 2019 พบว่าคนไทยใช้ Google ค้นหาสูงถึง 99.3% รองลงมาคือ Yahoo และ Bing นั่นแปลว่าถ้าคุณไม่ทำ SEO จะทำให้คุณไม่มีวันได้พบเจอผู้คนที่จะมาเป็นลูกค้าได้เลย เพราะปัจจุบันทุกบริษัท องค์กร ร้านค้าต่าง ๆ ทำ SEO แข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงตำแหน่งบนสุดหรือหน้าแรก Google ทั้งนั้น
วางแผนอย่างไร ก่อนลงมือทำ SEO ?
ก่อนที่จะเริ่มทำ SEO บนเว็บไซต์ คุณควรวางแผนให้ดีก่อนว่าเว็บไซต์คุณจะแสดงผลการค้นหาจากคำค้นว่าอะไร ลูกค้าคุณจะค้นหาอะไรเพื่อจะเข้ามาเว็บไซต์คุณ หากคิดไม่ออกคุณอาจจะเข้าไปค้นหาใน Google เพื่อเป็นไอเดียก็ย่อมได้ หรือการใช้ Google Keyword Planner จาก Google Ads ก็จะได้คำที่มีปริมาณการค้นหาสูง รู้ข้อมูลการแข่งขันของคำนั้น ได้แบบคร่าวๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ตและประเมินว่า Keyword นั้นเหมาะสมกับธุรกิจหรือไม่ และปริมาณการค้นหาคุ้มค่ากับการตั้งเป็น Keyword ชุดหลักที่เราจะทำ SEO ต่อไป
ลงมือทำ และแนวทางการทำ SEO
การทำ SEO ที่ดีที่สุด คือ ทำให้ตรงกับเกณฑ์การให้คะแนนของ Google โดยที่ Google จะเข้ามาเยี่ยมชมและตรวจสอบเว็บเราเป็นประจำอยู่แล้ว และดูความเกี่ยวข้องของเนื้อหากับ keyword ที่เราทำ รวมถึงโครงสร้างเว็บไซต์ การออกแบบส่วนต่างๆ ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
วิธีการทำและการให้คะแนน Google ไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้ทดลองและทำการคาดการณ์ว่า Google ใช้เกณฑ์อะไรบ้างเพื่อให้ได้คะแนนสูงสุดในการทำ SEO มีเว็บไซต์ที่สรุปปัจจัยในการทำไว้กว่า 200 รายการ และคาดว่ามีผลต่อการจัดอันดับของ Google สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ Google’s 200 Ranking Factors
เนื้อหาคอนเทนต์
ส่วนสำคัญที่สุดในการทำ SEO คือเนื้อหา ที่เป็นปัจจัยหลัก เพราะเว็บไซต์ที่จะเกี่ยวข้องกับ keyword คำค้นใดๆ google จะดูจากความสำคัญของ keyword และเนื้อหาที่อยู่บนเว็บทั้งหมด ปริมาณ keyword และตำแหน่ง ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของหน้า Title, URL, Footer, หรือ Tag ต่าง ๆ รวมถึงตัวหนาตัวเอียง Links.
การทำคอนเทนต์โดยเน้นให้ความรู้กับสินค้ามากกว่าการขายตรงๆ จะทำให้ผู้คนเข้าชมเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ และมีส่วนช่วยในการทำ SEO ได้อีกทาง แต่บทความนั้นต้องมีปริมาณคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
ข้อความระวังคือ หากมี keyword ที่คุณต้องการมากเกินไป ถี่เกินไปจนผิดธรรมชาติของเนื้อหา ระบบ Google จะนับว่าเป็น Spamming คือ สร้างความรำคานให้กับผู้ใช้งาน และจงใจหลอก Google ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงและลดอันดับของการจัดอันดับบนเว็บไซต์ หรือเว็บเพจคุณไปเลย ลองอ่าน 7 วิธีสร้างคอนเทนต์ให้น่าเชื่อถือและประสบความสำเร็จ
โครงสร้างและประสิทธิภาพของเว็บไซต์
ปัจจัยด้านเทคนิคในการทำเว็บไซต์ให้สะดวกต่อการใช้งาน และด้านความปลอดภัยจะต้องมีดังนี้
- HTTPS : ทำเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการรับและส่งข้อมูลบนเว็บ SSL สำคัญอย่างไร ทำไมต้องมี
- Resposive Design เพื่อให้แสดงผลได้อย่างสมบูรณ์บนอุปกรณ์ทุกขนาดหน้าจอที่แสดงผลเว็บไซต์
- Inbound Links เพื่อให้เว็บมีเส้นทางเชื่อมกันทั่วถึง เป็นเหมือนการทำแผนที่บนเว็บ เพิ่มคะแนน Backlinks แต่ละหน้าได้เป็นอย่างดี
- เทคนิคอื่นๆ pagespeeds การเพิ่มความเร็ว การใช้ Hosting ที่ดีปลอดภัย สร้าง Robot เพื่อป้องกันข้อมูล การปรับเปลี่ยนชื่อภาพ ขนาดไฟล์ภาพ (Image SEO)
คุณอาจให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงตรวจสอบ เพื่อพิจารณาว่าจะปรับแก้เว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร หรืออาจจำเป็นต้องสร้างใหม่โดยเฉพาะในส่วนรองรับ Responsive Design เพราะในบางทีเว็บไซต์ที่เขียนด้วยภาษาเก่า หรือไม่ได้ทำมารองรับ Mobile Friendly ก็จะปรับแก้ยาก การสร้างใหม่จึงดีที่สุด มองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO
สร้างความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์
ในส่วนนี้ต้องมีการพูดถึงและอ้างอิงจากแหล่งภายใน เช่น Social Media เว็บไซต์อื่นๆ ที่มีการเข้าถึงดี และเปิดมาเป็นเวลานาน ซึ่งส่วนนี้มีผลกับ SEO มากที่สุดอย่างหนึ่ง
การเขียนบทความคุณภาพเพื่อให้เว็บไซต์อื่นใช้ในการอ้างอิง หรือแพร่หลายใน Social Network เป็นวิธีที่มีคุณภาพสูงมาก แถมยังช่วยในเรื่องชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ
ข้อความระวัง : หาก Links ที่มาจากเว็บไซต์เป็นเว็บที่ไม่มีคุณภาพ เช่น เว็บรับจ้างใส่ Links บนเว็บบอร์ดต่าง ๆ หรือ Links ที่เกิดจากการซื้อโฆษณา จะไม่ได้รับคะแนนในส่วนนี้เลย การโพสต์ Links ต่างๆ ไปบน Webboard เจ้าของเว็บนั้นๆ จะไม่ทำให้ Links มีการนับคะแนนเพื่อป้องกันการ Spam Links อยู่แล้วด้วย
ขั้นตอนการตรวจสอบ
การตรวจสอบคุณภาพ และความคืบหน้าของสิ่งที่คุณทุ่มเททำได้ง่ายๆ โดยการตรวจสอบกับเว็บอ้างอิงหรือ Browser ของคุณเองได้เลย เช่น Chrome แล้วเข้าไปในโหมด Incognito คีย์ลัด ( Ctrl+Alt+N ) ซึ่งโหมดนี้จะไม่นับการค้นหาของคุณบ่อยๆ เพราะถ้าคุณค้นหาคำของตัวเองบ่อยใน Browser คำนั้นมักจะติดอันดับแรกๆ
สรุป : SEO คือ การทำให้เว็บไซต์คุณถูกค้นหาเจอบน Google และถูกคลิ๊กจริงโดยคนจริง ๆ ถ้าหากคุณทำมันได้ดีแล้ว และอันดับของคุณกำลังไต่ระดับขึ้น หมายความว่าเว็บไซต์ที่คุณทุ่มเทลงไปจะสามารถเข้าถึงผู้คนจำนวนมาก การดึงผู้คนเข้ามาเป็นเพียงก้าวแรกของคุณเท่านั้น เพื่อให้ถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพคุณต้องเปลี่ยนผู้ชมให้มาเป็นลูกค้าให้ได้ ส่วนวิธีการจะทำอย่างไรนั้น คอยติดตามกันนะครับ
