Ted Sarandos พนักงานร้านวีดีโอ กลายมาเป็น CEO Netflix
Ted Sarandos อดีตพนักงานร้านเช่าวีดีโอ ก้าวมาเป็นผู้บริหารและ CEO ของ Netflix ได้อย่างไร
ตลาด Video Streaming ในปัจจุบันมีความท้าทายเป็นอย่างมาก แต่ Netflix หนึ่งในยักษ์ใหญ่ธุรกิจ Video Streaming ต้องคอยสู้รบและรับศึกรอบด้าน ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจ โรคระบาด และคู่แข่งอีกหลายเจ้า แต่ด้วยเหตุ Netflix จึงสามารถผงาดขึ้นมา จนเป็นที่ครองใจของใครหลาย ๆ คน ติดงอมแงมกันทั่วโลก และการขึ้นมาของ Ted Sarandos ผู้บริหารและ ตัวเต็ง CEO คนล่าสุดของ Netflix มีความเป็นมาอย่างไร เรามาดูกัน
ก้าวแรกของ Ted Sarandos
Ted Sarandos เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายกรีก เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1964 เติบโตและอาศัยอยู่ ในรัฐแอริโซนา (Arizona) ซึ่งตามธรรมเนียมของบ้านเขา คือ การที่ครอบครัวได้รวมตัวกัน ดูหนังยอดฮิตจากม้วนวีดีโอที่ไปเช่ามา จนทำให้ตัว Ted Sarados เอง เริ่มหลงไหลในการชมภาพยนต์ และกลายเป็นขาประจำของร้านวีดีโอใกล้บ้าน..
ในที่สุดโอกาสก็มาถึง Ted ได้ไปสมัครเป็นพนักงาน ในช่วงที่เขาเรียนระดับมัธยมปลาย โดยร้านที่ Ted Sarandos ตัดสินใจไปทำงานชื่อว่า West Coast Video เป็นร้านที่ไม่ได้โดงดังอะไร ในสมัยนั้นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คือ Blockbuster พูดมานี่คงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ปัจจุบัน Blockbuster ก็ได้ล้มละลายไปเรียบร้อย
จากความรัก คลั่งไคล้ ในอาชีพนี้เอง Ted นั้นได้มีส่วนร่วม เข้ามาเติมเต็มความสำเร็จของร้านเล็ก ๆ ร้านนี้ จนได้เป็นผู้จัดการร้าน และก้าวต่อไปจนเป็น “ผู้จัดการเขต”
ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง เมื่อเขาได้นั่งเป็น “รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และสินค้า” แต่นั่นก็ทำให้ Ted Sarandos เสียโอกาสอันยิ่งใหญ่ในชีวิต คือ การศึกษาในชั้นมัธยมปลาย ที่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ เขาเลือกที่จะทำงาน..
ความมุ่งมั่นที่ผู้คนมองเห็น
ต่อมาในช่วงยุค ปี 90 Reed Hastings ได้เห็นแววของ Ted Sarandos จึงชักชวนให้ไปร่วมงาน Netflix ที่พึ่งเริ่มเปิดตัวในช่วงแรก Netflix นั้น เดิมที แทบจะไม่มีส่วนในธุรกิจ Video เลยด้วยซ้ำ เพราะ Netflix คือ “บริษัทส่ง CD หนัง” ให้ลูกค้าผ่านการเช่าและซื้อ แบบเหมาจ่ายผ่านทางไปรษณีย์
Reed นั้นประทับใจในความคูลของ Ted เอามาก ๆ เพราะความรู้ในเชิงลึกของหนังที่เขาสั่งสมมา ผ่านการดูหนังทั้งจากในที่ทำงาน และกับครอบครัวมากกว่า 10 ปี
Ted Sarandos เรียกวิธีการคุยกับลูกค้าของเขาว่า Human Algorithm โดยต่อมาวิธีนี้ก็ถูกต่อยอดมาเป็นฐานข้อมูลใหญ่ในระบบ Algorithm โดย Ai ระบบฐานข้อมูลของ Netflix และผันตัวมาทำธุรกิจให้บริการ Video Streaming ในที่สุด
ต่อมาไม่นาน Ted Sarados ก็แนะนำให้ Reed Hastings สร้างหนังที่เป็นซีรีส์ของตัวเองภายใต้ชื่อ Netflix Original โดยให้ทุนสร้างแก่ทีมงาน เพื่อดึงดูดผู้ชมให้ได้ชมซีรีส์กันแบบยาวๆ ทั้งวันทั้งคืน จนในที่สุด Ted Sarandos ก็ได้ขึ้นแท่นมานั่งเป็นหัวหน้าฝ่าย Content และมีหน้าที่คัดกรองซีรีส์ รายการต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในระบบ Platform ของตัวเอง ซึ่งทุกคนต่างไว้วางใจ Ted เพราะด้วยประสบการณ์และความตั้งใจมุ่งมั่น
บทพิสูจน์ที่ประสบความสำเร็จ
เราอาจกล่าวได้ว่า Netflix จะไม่มีวันมีชื่อเสียงด้านการสร้างหนังได้เลย ถ้าไม่มีคนอย่าง Ted Sarandos ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ชื่อดัง อาทิ Stanger Things, The Crown, House of Card หรือแม้แต่ซีรีส์เกาหลีดัง ๆ อย่าง Vagabond, Itaewon Class หรือ Kingdom ก็อาจจะไม่ได้แจ้งเกิดเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่มี Netflix
แม้ว่า Ted จะมีคู่แข่งในการชิงตำแหน่ง CEO ก็ตาม แต่ด้วยความสามารถอันเป็นบทพิสูจน์ได้ว่า Ted Sarandos มีอิทธิพลต่อวงการหนัง และซีรีส์ในอุตสาหกรรมภาพยนต์แบบสตรีมมิ่งเป็นอย่างมาก
สำหรับ Ted Sarandos แล้ว การได้นั่งตำแหน่ง CEO Netflix ต่อจาก Reed Hastings ที่กำลังจะหันไปทำธุรกิจในแวดวงการศึกษาแทน นับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งว่า ก้าวต่อไปของ Netflix อาจจะเป็นมากกว่าค่าย Video Streaming
แม้จะมีข่าวดีในวงการวีดีโอสตรีมมิ่งแบบนี้ แต่ Netflix เอง ก็มีศึกใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าเหมือนกัน คือ ยักษ์ใหญ่ในวงการภาพยนต์อย่าง Apple (Pixar), Amazon Prime หรือ Walt Disney ก็ต่างต้องการเข้ามาแย่งชิง ส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจ นี่ยังไม่นับรวมถึง Youtube แคสเตอร์ทั้งหลาย และสตาร์ทอัพจีนอย่าง Tiktok ก็เป็นหนึ่งในพลพรรค ที่อยากจะได้มาร์จิ้นของตลาดที่กำลังร้อนแรงในจุดนี้เช่นกัน
อ้างอิง : theverge.com
